ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย
เด็กวัยนี้เรียนรู้ด้วยวิธี การซึมซับจากตัวแบบ ดังนั้น
ถ้าครูพูดภาษาอังกฤษกับเด็กในชั้นเรียนสม่ำเสมอ
หรือคุณพ่อคุณแม่พูดภาษาอังกฤษที่บ้านเป็นประจำ
เด็กก็จะเรียนรู้และมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีได้ไม่ยาก
สำหรับปัจจัยที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กปฐมวัยท่านนี้ บอกว่า เด็กต้องสนุกกับการเรียน เช่น
คุณครูใช้สื่อการสอนหลากหลายชนิด จัดรูปแบบกิจกรรมให้เด็กมีทางเลือก
และพัฒนาความฉลาดที่หลากหลายตามแนวคิดของทฤษฎีพหุปัญญา
เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับสื่อการสอน กับครู กับเพื่อนๆ ในชั้นเรียนตลอดเวลา
ไม่มีการท่องศัพท์ ไม่มีความเครียด มีแต่ความสนุกสนาน
ทฤษฎีพหุปัญญา คือ ทฤษฎีทางปัญญา ที่เชื่อว่า
คนเราแต่ละคนมีความสามารถทางปัญญาหลากหลาย มีทั้งหมด 8 ด้าน คือ ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย ด้านภาษา ด้านการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ด้านการรู้จักตนเอง ด้านดนตรี ด้านมิติสัมพันธ์
ด้านการเข้าใจธรรมชาติ
ซึ่งครูสามารถนำแนวคิดไปประยุกต์เพื่อจัดกิจกรรมให้เด็กพัฒนาปัญญาได้หลาย ด้าน
เนื่องจากเรากำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
พ่อแม่ผู้ปกครองควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษตามวัยที่เหมาะสม
และตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน แต่ไม่ควรคาดหวังการเรียนรู้ของเด็กสูงเกินไป
เพียงแต่ให้เด็กได้ทำความรู้จักกับภาษา เกิดความชอบ ความคุ้นเคย
เรียนอย่างสนุกสนาน และอยากไปโรงเรียน เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับเด็กปฐมวัยแล้ว
ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอนุบาล ตั้งแต่เอบีซี มีแบบฝึกคัดพยัญชนะ A-Z เพื่อให้เด็กๆ
ได้เรียนรู้อักษรภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งคำศัพท์ที่ควรเรียนรู้เป็นเบื้องต้น
การเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอนุบาล ควรเน้นที่คำศัพท์พื้นฐาน และประโยคง่ายๆ
ก็พอครับ สังเกตจากการเรียนรู้ภาษาของเด็กๆจะเริ่มจากคำศัพท์ก่อนเป็นเบื้องต้น
ตามด้วยวลีง่ายๆ และประโยคสมบูรณ์ท้ายที่สุด
ที่มา http://oknation.nationtv.tv/blog/yushiva/2014/01/30/entry-8
ภาษาอังกฤษนับวันนั้นสำคัญมากถึงกับเป็นเครื่องมือชี้วัดความสามารถในหน้าที่การงาน
เป็นทั้งประตูเปิดโอกาสและสามารถกั้นความสำเร็จของเรา(ถ้าเราไม่มีทักษะทางภาษา)ได้เหมือนกัน
ถ้าคุณเป็นผู้ปกครองสมัยใหม่คุณจะเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษยิ่งกว่าเลข
ยิ่งกว่าวิทย์และคุณรู้ดีว่าควรเป็นสิ่งแรกๆที่ควรสอนลูกเล็กของคุณ
เราจึงแนะนำวิธีการสอนภาษาที่ผู้ปกครองสามารถทำเองได้ที่บ้าน
ฝึกตั้งแต่เด็กๆ เพราะสมองของเด็กเล็กเป็นเหมือนฟองน้ำซึมซับหมดทุกอย่างที่เทลงไป
ถ้าเราเทของดีมีความรู้ให้
ลูกน้อยก็จะมีความพร้อมมากกว่าเพื่อนที่อายุเท่ากันอย่างมากมาย
การเรียนภาษาก็เหมือนกับการลดความอ้วน
เราต้องเปลี่ยนสภาวะแวดล้อม life style เพื่อรองรับทักษะใหม่นี้
คุณพ่อคุณแม่ที่ภาษาไม่เก่งไม่ต้องกลัวเพียงแค่เราเตรียมการเรียนรู้ภาษาให้ลูกเราจะค่อยๆเก่งขึ้นเอง
สำเนียงไม่ต้องเป๊ะ
คนที่สำเนียงดีต้องโตที่ต่างประเทศ เราสอนให้น้องออกเสียงคำให้ถูกต้องก็พอ
เวลาน้องเข้าทำงานเค้าต้องการคนที่สื่อสารได้ไม่ใช่คนที่ออกเสียงเหมือนฝรั่ง ง่ายๆ
คือ อย่าฝืนธรรมชาติเลย
1.ลงทุนซื้อคอร์สวีดีโอเด็กเล็กไว้เลย
คอร์สพวกนี้ถูกสร้างมาเพื่อสอนเด็กเล็กโดยเฉพาะ
อย่าลืมนะว่าเด็กฝรั่งตอนเกิดมาเค้าก็ไม่รู้ภาษาเหมือนกัน
เด็กทุกคนเรื่มจากศูนย์หมดถ้าเราให้ลูกเล็กไปเรียนที่สถาบัน ก็คงไม่พ้นคอร์สพวกนี้
2.เปิดเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กให้ฟังบ่อยๆ
อาจจะมีเพลงเฉพาะตอนเข้านอน หรือตอนแต่งตัวและสอนให้ลูกร้องตาม
3.ไม่ควรพูดคำไทยแล้วแปลเป็นอังกฤษเพราะมันจะฝึกการแปลภาษาสองครั้ง
ซึ่งเป็นการฝึกแบบไม่ใช่ธรรมชาติ เมแนะนำให้ผู้ปกครองช่วยลูกเล็กให้เห็นความสัมพันธ์ของสิ่งของแทนคำพูด
เช่น ชี้เก้าอี้ อย่าพูดว่า “Chair เก้าอี้” แต่ให้พูดแค่ chair แล้วให้สมองของน้องทำความเข้าใจแทน เวลาน้องเห็นเก้าอี้น้องจะได้นึกถึง “chair” ไม่ใช่ .”chair เก้าอี้”
4.เวลาดูหนัง..ให้ดู Soundtrack ถึงแม้ว่าน้องอาจจะไม่อ่านแต่อย่างน้อยน้องจะได้ฟัง
5.ซื้อหนังสือหรือแม็กกาซีนที่น้องชอบแต่เป็นภาษาอังกฤษทุกอย่างที่เด็กทำมาจากความชอบ
น้องชอบอะไร ส่งเสริม แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษ
6.ห้ามสั่งคำศัพท์ให้ท่อง
ท่องไม่ได้โดนตีหรืออดขนม เพราะมันจะเป็นการสร้างทัศนคติที่ไม่ดีต่อภาษาจนน้องโตเป็นผู้ใหญ่เลยนะ
ที่มา http://www.fmcpenglish.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B9%83%E0%B8%AB/
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
1. ฝึกเด็กให้รู้จักสังเกตคำที่ปรากฏทั่วไป ชี้ให้ดูพยัญชนะ
คำภาษาอังกฤษจากโทรทัศน์ สิ่งของเครื่องใช้ คำ โฆษณา หนังสือพิมพ์ และศัพท์ที่ปรากฏทั่วไป
ผู้ปกครองต้องชี้ อ่านให้เด็กฟัง พร้อมแปล แล้วให้เด็กลองออกเสียง อาจร้อง เป็นทำนอง
เด็กจะสนุกและเกิดการเรียนโดยอัตโนมัติ
ขณะนั่งรถไปตามทางจงใช้โอกาสว่างระหว่างนั่งรถในการสอนภาษาอังกฤษกับเด็กทุกครั้ง
เพราะเด็กกำลังตื่นตัวกับประสบการณ์ข้างทาง
2. อ่านให้ฟัง นิทานกับเด็กเป็นของคู่กัน
เด็กชอบฟังนิทานและเรียนรู้หลายอย่างจากนิทาน
ผู้ปกครองควรอ่านนิทานเป็นภาษาอังกฤษและแปลเป็นไทยให้เด็กฟัง
การฟังเป็นประจำทุกวันจะทำให้เด็กจำได้ สนุกทั้งนิทาน และได้เรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษ
เวลาเล่านิทานที่เหมาะมาก คือ ก่อนนอน ควรอ่านเรื่องซ้ำ ๆ
เด็กไม่เบื่อที่จะฟังนิทานซ้ำเรื่อง โดยเฉพาะ เรื่องที่ประทับใจ
การอ่านซ้ำ การเล่าซ้ำจะทำให้เด็กจำเรื่อง จำศัพท์
จำประโยคและสำนวนภาษาเก็บไว้ในใจลึก ๆ ได้ ประการสำคัญเมื่อเล่านิทานจบลง
ควรทบทวนศัพท์สัก 2 - 3 คำก่อนจะเลิกเล่า
แต่ถ้าเล่าแล้วเด็กหลับไปก่อน ไม่เป็นไร อาจถามทบทวนในวันใหม่ได้
การได้ฟังได้พูดซ้ำ ๆ หลายครั้งเด็กจะจำศัพท์ได้ดี
ศัพท์ที่ทวนควรเป็นศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์เด็ก เช่น เล่าเรื่อง
หนูกับราชสีห์ ศัพท์ที่ทวน ได้แก่ Rat, Lion, Tree ไม่ใช่ relation, meet ซึ่งไกลประสบการณ์เด็กเว้นแต่คุ้นกับคำง่ายแล้ว
จึงเพิ่มเติมคำไกลตัว ข้อสำคัญอย่าสอนสะกดคำหรือคาดคั้นให้เด็กท่องศัพท์
เด็กจะเครียดและเกลียดภาษาอังกฤษในที่สุด เด็กอาจท่องตามท่านเป็นนกแก้ว นกขุนทอง
เด็กจะฝังความรู้สึกความไม่ชอบอยู่ภายใน จงให้เด็กได้เรียนแบบสนุก
เรียนปนเล่นเหมือน คำว่า Plearn (เพลิน) Play
+ learn ของศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ สมุทรวานิช
เด็กจะเรียนรู้และจำได้อย่างมีความสุข
3.สร้างความคุ้นเคยด้วยการใช้บทสนทนา
ทักทายอย่างง่ายเป็นประจำ เมื่อพบเด็ก เช่น
Good
morning, How are you?
What is your
name?
Where are you
going?
ควรถามซ้ำ ๆ
การถามซ้ำทำให้จำได้แล้วจึงขยายประโยคต่อไป
จากคำตอบนี้ต้องการบอกให้ผู้ปกครองทราบว่าไม่ต้องหาโรงเรียนให้ยุ่งยากใจ
ผู้ปกครองสามารถสอนเองได้ สอนที่บ้าน สอนขณะเดินทาง สอนด้วยตนเอง
ไม่ช้าเกินไปในการเรียนภาษาอังกฤษ ถ้าผู้ปกครองใส่ใจ
แม้เด็กจะเรียนในโรงเรียนที่ไม่มีการสอนภาษาอังกฤษเลยก็ตาม
ที่มา http://www.sahavicha.com/?name=article&file=readarticle&id=98
สรุป การสอนภาษาอังกฤษเบื้องต้นให้กับเด็กปฐมวัยควรเริ่มสอนจากสิ่งที่ง่ายๆ
อาจสอนจากสิ่งที่เด็กพบเจอในชีวิตประจำวันเป็นประจำให้
ควรสอนให้เด็กรู้สึกสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ
เห็นหนังสือหรือได้ยินภาษาอังกฤษแล้วจะไม่กลัว ไม่กังวล แต่รู้สึกคุ้นเคยแทน
ทีละนิดๆ เพียงเท่านี้เด็กก็จะเริ่มสะสมนิสัยการรักภาษา
พอเข้าเรียนภาษาจะเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับเขา
ตรวจสอบ font และอ้างอิงนะคะ
ตอบลบหนูเพิ่งเห็น เดี๋ยวหนูแก้ไขนะคะ
ลบแก้ไขแล้วนะคะอาจารย์
ลบ